วันอาทิตย์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ผิวขาวใส หน้าเนียนได้ ไม่ยากอย่างที่คิด







ผิวขาวใส หน้าเนียนได้ ไม่ยากอย่างที่คิด





ผิวขาวใส ไม่ยากอย่างที่คิด

การดูแลผิวขาวใสนั้น ต้องดูแลตั้งแต่วัยรุ่นนะจ๊ะ ว่าคือยิ่งเราดูแลผิวตัวเองเร็วแค่ไหน ยิ่งทำให้ผิวเราดูเด็กมากขึ้นนั้น ไร้ปัญหาริ้วรอยกว่าวันอันควร และยืดความเสื่อมของเซลล์ผิวได้มากขึ้นค่ะ โบว์มี 5 สิ่งที่ควรปฏิบัติ เพื่อช่วยให้ผิวขาวใส และผิวสวยดูสดใสไปนานๆค่ะ

1.ครีมกันแดด ควรทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านให้ติดเป็นนิสัยนะจ๊ะ เพราะแสงแดดมีรังสีอัลตราไวโอเลต ทำให้ผิวเราเสื่อมได้มากถึง 80%เชียวนะ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวขาวใสของเราเกิดริ้วรอย และเหยี่ยวย่นค่ะ

2.ท่านอน การนอนของคนเราอย่างน้อยต้องใช้เวลาถึง 6-8 ชั่วโมงต่อวัน สำหรับคนที่ชอบนอนซุกหน้ากับหมอนจะทำให้ด้านที่ตะแคงเข้าหาหมอนเกิดริ้วรอยมากกว่าอีกด้านนึงค่ะ เพราะฉะนั้นเราควรเปลี่ยนท่านอนมาเป็น ท่านอนหงายหรือเลือกใช้หมอนที่อ่อนนุ่ม และเลือกปลอกหมอนที่มีเนื้อผ้าลื่นๆ เช่น ผ้าซาติน เพื่อแก้ปัญหาตรงจุดนี้ และหน้าขาวใสของเราก็จะปราศจากริ้วรอยค่ะ

3. อาหาร ผิวขาวใสมาจากอาหารที่ดี มีประโยชน์ ครบหมดหมู่นะจ๊ะ โดยเฉพาะวิตามินที่ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิว ได้แก่ วิตามินเอ ซี และอีค่ะ อย่างเช่น ผักสดและผลไม้สดค่ะ และเมื่อทานอาหารที่มีประโยชน์แล้ว อย่าลืมดื่นน้ำให้มากๆประมาณ 6-8แก้วต่อวันนะค่ะ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่น สดใสให้แก่ผิวค่ะ

4. พักผ่อน ต้องรู้จักการพักผ่อนให้เพียงพอค่ะ เพราะผิวขาวใสของเรานั้นจะมีได้ ต้องเริ่มมาจากสุขภาพที่ดีนะจ๊ะ ถ้าเราสุขภาพดี แข็งแรง ผิวพรรณของเราก็จะสวย สดใสตามไปด้วยค่ะ

5. ผ่อนคลาย ความเครียดเป็นบ่อเกิดของใบหน้าหมองคล้ำ ริ้วรอย สิว และอื่นๆนะจ๊ะ เพราะฉะนั้น เราควรหาวิธีผ่อนคลายความเครียดบาง อย่างเช่น การนั่งสมาธิ การฟังเพลง เดินเล่น เป็นต้น ก็ช่วยลดความเครียดได้ค่ะ

นี่คือ 5 วิธีง่ายๆเพื่อผิวขาวใสที่คุณก็สามารถทำได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนนะจ๊ะ

Tips:

  • การทาครีมกันแดด ควรเลือก SPF ให้เหมาะสมกับการใช้งานและสภาพผิวนะจ๊ะ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุดค่ะ
  • เมื่อต้องออกแดด หรืออยู่กลางแจ้ง ควรสวมหมวก สวมเสื้อผ้า หรือหาเครื่องปกป้องผิวขาวใสบ้างนะจ๊ะ เพื่อไม่ให้ผิวขาวใสกระทบกับแสงแดดโดยตรง
  • ขณะขับรถ หรือเดินทางในที่แดดจ้า ควรสวมแว่นตากันแดดนะค่ะ เพราะถ้าคุณไม่สวมแว่นตากันแดด จะทำให้เราหยีตาโดยที่เราไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยค่ะ
  • สดใสตลอดเวลา ถ้าเราสดใส สดชื่นตลอดเวลา จะทำให้เราเลิกทำหน้านิ่วคิ้วยุ่งๆตลอดเวลา และทำให้ผิวขาวใสของเราดูน่ามองมากขึ้นค่ะ
  • งดการสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยนะจ๊ะ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นตัวการสำคัญในการทำลายผิวหนังให้เสื่อมก่อนวัยอันควรค่ะ
  • การอดนอนบ่อยๆ จะทำให้ใบหน้าดูหมองคล้ำ อิดโรย ไม่สดใส และเกิดริ้วรอยก่อนวันอันควรค่ะ

เรื่องของผิว หน้าเนียน เปล่งปลั่งกับน้ำมะพร้าว


เรื่องของผิวเนียนเปล่งปลั่งกับน้ำมะพร้าว

น้ำมะพร้าว นับเป็นเครื่องดื่มเกลือแร่จากธรรมชาติ เพราะอุดมไปด้วยแร่ธาตุหลายอย่าง ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและผิวเนียน สวย สดใสนะค่ะ

- การดื่มน้ำมะพร้าวทุกวัน จะช่วยชะลออาการอัลไซเมอร์

- น้ำมะพร้าว ช่วยสมานแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้นกว่าปกติ รวมทั้งไม่ทิ้งรอยแผลเป็นบนผิวเนียนให้ดูต่างหน้าอีกด้วยนะจ๊ะ

- น้ำมะพร้าว ยังช่วยทำให้ผิวเนียนเปล่งปลั่ง สวย สดใส เพราะแร่ธาตุที่อยู่ในน้ำมะพร้าว จะเป็นตัวสร้างคอลลาเจน และอีลาสติน ทำให้ผิวเนียนมีความกระชับ ยืดหยุ่น และ ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ค่ะ

- น้ำมะพร้าว ช่วยลดอาการอ่อนเพลีย หลังจากเล่นกีฬา ออกกำลังกาย ท้องเสีย ท้องร่วง หรือร่างกายเสียน้ำมาก ซึ่งจะทำให้ผิวเนียนของเราไม่ขาดความสดใสมากค่ะ

- น้ำมะพร้าวเป็นอาหารบริสุทธิ์ เป็นเครื่องประทินผิวเนียนให้สวยสดใสยิ่งขึ้น และเป็นยาบำรุงกำลัง บำรุงเส้นเอ็น ใช้ในการรักษาโรคต่างๆ อย่างเช่น โรคกระดูก ท้องร่วง อาเจียน และขับพยาธิ เป็นต้นคะ

ชักชวนกันดื่มน้ำมะพร้าวทุกวัน เพื่อสุขภาพที่ดี และผิวเนียนสวย สดใสมากขึ้นนะจ๊ะ

Tips:

  • น้ำมะพร้าว ช่วยลดอาการเมาหลังการดื่มแอลกอฮอล์ได้นะจ๊ะ
  • เมื่อเปิดลูกมะพร้าว ควรดื่มน้ำมะพร้าวทันที ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นานนะค่ะ เพราะคุณค่าของผลไม้ที่จะได้รับจะลดลงเรื่อยๆ ตามเวลาที่ผ่านไปนับจากเราตัดหรือหั่นผลไม้ชนิดๆนั้นๆ
  • ทุกเพศ ทุกวัย สามารถดื่มน้ำมะพร้าวได้ทุกวันนะค่ะ เพราะเป็นเครื่องดื่มจากธรรมชาติ ไม่เป็นอันตรายใดๆเหมือนน้ำอัดลม น้ำหวาน เป็นต้น แต่ไม่เหมาะสำหรับคนเป็นโรคไตและเบาหวานนะค่ะ เพราะมะพร้าวมีความหวาน

ถึงแม้ ผิวหนัง รอบดวงตา จะเป็นส่วนที่บอบบางที่สุดในร่างกาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า คุณจะต้องเสียเงินเพิ่มเพื่อซื้อครีม

: , , , ,

แบบฝึกหัดการดูแลผิวหน้าให้เนียนใส มากๆ




เป็นธรรมชาติของสาวๆ มาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วล่ะค่ะ ที่จะพยายามเอาใจใส่ ความสวยความงามของตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอ โดยเฉพาะผิวหน้า เครื่องสำอางค์ที่ใช้ประทินผิว ก็ถูกคิดค้นขึ้นมานานหลายศตวรรษแล้วเช่นกันค่ะ อย่างมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ ก็เป็นที่ฮือฮาและนิยมใช้กันแพร่หลาย มาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 20 โน่น จนปัจจุบัน วิทยาการก้าวไกลทำให้สาวๆ ยุคใหม่อย่างคุณมีเครื่องสำอางค์สารพัดสรรพคุณ เพื่อใช้บำรุงผิวหน้าให้มีสุขภาพดีอยู่เสมอค่ะแต่การบำรุงผิวหน้าด้วยเครื่องประทินผิวยี่ห้อดังๆ ก็ไม่ได้หมายความว่า จะทำให้คุณมีผิวหน้าที่สวยสดใสเหมือนสมัยสาวๆ ได้ตลอดกาลหรอกนะคะ ตราบใดที่คุณยังไม่รู้จักการดูแลผิวหน้าเบื้องต้นอย่างถูกวิธีแล้วล่ะก็…

นั่น…อยากรู้แล้วล่ะสิ งั้นเราไปดูกันเลยค่ะว่ามีวิธีไหนกันบ้าง




ทำตัวให้ไกลจากแดดจ้า พยายามหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแดดจัดๆ นะคะ ก็เพราะไอ้แดดจัดๆ นี่ล่ะค่ะ ที่ชอบทำตัวเป็นคู่อริกับผิวหน้าของคุณอยู่ตลอดเวลา ทำให้ผิวของคุณหมองคล้ำและแก่เร็วอีกต่างหาก แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณจำเป็นต้องออกเผชิญกับแดดจัดๆ แบบนั้นแล้วล่ะก็ อย่าลืมทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านด้วยนะคะ ให้เลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF (สารปกป้องแดด) 15 เป็นอย่างน้อย ยิ่งถ้าหาซื้อครีมกันแดดชนิดผสมมอยซ์เจอไรเซอร์มาใช้ด้วยแล้ว จะยิ่งทำให้ช่วยบำรุงผิวไปในตัวได้ด้วยค่ะ

เพิ่มวิตามินให้ผิวพรรณ เลือกกินผลไม้ ผัก และธัญญพืชให้มากๆ เข้าไว้นะคะ เพราะอาหารจำพวกนี้มีส่วนช่วยลดอันตรายที่เกิดจากแสงแดดได้ค่ะ อีกทั้งยังมีส่วนผสมของวิตามินหลากหลายชนิดที่จะทำให้ผิวพรรณของคุณดูมีน้ำมีนวล สดใสและเปล่งปลั่งอยู่เสมอ แถมยังป้องกันโรคแก่ก่อนวัยได้ผลชะงักด้วยนะคะ

ดื่มน้ำเพิ่มความสดชื่น การดื่มน้ำมากๆ จะทำให้เกิดความสมดุลย์ในร่างกาย และช่วยให้ผิวพรรณของคุณดูมีสุขภาพดีอยู่เสมอค่ะ พยายามสร้างนิสัยการดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อยวันละ 8 แก้วเอาไว้นะคะ และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีสารคาเฟอีน ซึ่งเป็นตัวการสลายความชุ่มชื้นของผิวพรรณด้วยก็จะดีมากค่ะ

หาวิธีสยบความเครียด อย่าปล่อยให้ร่างกายและจิตใจของคุณ ต้องเผชิญกับความเครียดที่หมักหมมมาจากการทำงานตลอดสัปดาห์ของคุณเลยนะคะ สงสารตัวคุณเองบ้าง แล้วพยายามหาเวลาอย่างช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์พักผ่อนให้สบาย โดยอาจใช้วิธีออกกำลังกาย เล่นโยคะ หรือจะแอบงีบช่วงกลางวันก็ไม่มีใครว่าค่ะ เป็นเรื่องดีเสียอีกที่คุณได้ปลดปล่อยตัวเองให้สบายๆ ขืนเครียดไปมากๆ ก็มีแต่จะทำให้หน้าคุณมีแต่สิวเกรอะกรัง จนไม่มีหนุ่มๆ คนไหนอยากจะหันมาแลอีกต่อไป

หันหลังให้บุหรี่ เคยสังเกตมั้ยคะว่า คนที่สูบบุหรี่จัดๆ มักดูแก่เร็วกว่าคนปกติ ความจริงไม่แปลกเลยค่ะ เพราะคนที่สูบบุหรี่จัดๆ จะนำเอาสารประกอบที่อยู่ในตัวบุหรี่นั้นเข้าสู่ร่างกาย และมีผลทำให้เนื้อเยื่อที่มีส่วนทำให้ผิวหนัง ดูเต่งตึงและนวลเนียนตามวัยถูกทำลายลงอย่างรวดเร็ว คนที่สูบบุหรี่วันละสิบซองจึงดูโทรมและเกิดรอยเหี่ยวย่นก่อนวัยอันควรค่ะ ทางที่ดี ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ติดบุหรี่อยู่ล่ะก็ ให้เลิกซะเถอะค่ะ เพราะแลกกับความสวยและความสาวของคุณในตอนนี้แล้วล่ะก็ ไม่คุ้มกันเลยนะ จะบอกให้

เลิกวิธีประหยัดแบบไม่เข้าท่า อย่างเช่น ถ้าฟองน้ำที่ใช้คู่กับแป้งรองพื้นเริ่มออกแววสกปรกให้เห็นแล้ว ก็ไม่ควรเก็บเอาไว้ใช้อีกนะคะ นั่นน่ะ คือสัญญาณบอกให้รู้ว่าเชื้อแบคทีเรีย เริ่มเข้าไปสร้างหลักปักฐานกันบนฟองน้ำอันนั้นแล้วล่ะค่ะ แถมถ้าใช้ไปเรื่อยๆ ก็จะเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้อีก วิธีที่ดีที่สุดคือ คุณควรจะซื้อฟองน้ำเปลี่ยนใช้บ่อยๆ ค่ะ ดังนั้น ฟองน้ำที่ซื้อก็ไม่จำเป็นต้องแพงอะไรเลย แต่ขอให้คุณพยายามเปลี่ยนทันทีที่รู้สึกว่า มันเริ่มสกปรกแล้วก็พอค่ะ รวมทั้งแปรงที่ใช้คู่กับเครื่องสำอางค์ต่างๆ ของคุณด้วยนะคะ หมั่นล้างทำความสะอาดอย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง เพื่อแลกกับความสวยใสของใบหน้าคุณแล้ว ถือว่าไม่เปลืองเลยนะเนี่ย

ทำผิวหน้าให้สะอาดใส ด้วยสบู่หรือโฟมล้างหน้าที่มีฤทธิ์อ่อนๆ ค่ะ แล้วล้างกับน้ำอุ่นๆ จะทำให้ผิวของคุณดูสะอาดและมีสุขภาพดีอยู่เสมอ แต่คุณไม่ควรเลือกสบู่หรือโฟมที่มีส่วนผสมของสครับ (scrub) นะคะ เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการระคายเคือง และทำอันตรายต่อผิวหน้าได้ค่ะ

นอกจากวิธีดูแลผิวหน้าเบื้องต้นอย่างที่บอกนี้แล้ว สาวๆ หลายคนยังพยายามที่จะค้นหาวิธีบำรุงผิวหน้าต่างๆ นานา เพื่อให้ตัวเองดูดี และมีเสน่ห์อีกด้วยค่ะ หลายๆ คนเลือกไปที่ร้านเสริมสวย เพราะมีช่างที่สามารถช่วยเราได้ในเรื่องกรรมวิธีการบำรุงผิวหน้าอย่างถูกต้อง แต่บางคนก็เลือกที่จะค้นหาวิธีสำหรับการบำรุงผิวหน้าด้วยตัวเองที่บ้าน อย่างวิธีที่จะแนะนำดังต่อไปนี้ค่ะ

วิธีอบไอน้ำด้วยพฤกษาธรรมชาติ
ส่วนผสม
- น้ำสะอาด 2 ถ้วย
- กลีบดอกไม้หลากชนิด บรรจุรวมกันประมาณ ? ถ้วย

วิธีทำ
ต้มน้ำให้เดือดแล้วยกลงจากเตาค่ะ จากนั้นให้ใส่กลีบดอกไม้ที่เตรียมไว้มาลงไปในน้ำที่ต้มแล้ว คนส่วนผสมทั้งหมดกับน้ำที่ต้มประมาณ 5 นาที แล้วเอียงหม้อนิดๆ ค่ะ ยื่นหน้าของคุณเข้าไปอัง กะระยะห่างประมาณ 1 ฟุต ปิดตา แล้วใช้ผ้าคลุมศีรษะกับหม้อเอาไว้ ทำเป็นเหมือนเต็นท์อบไอน้ำนั่นล่ะค่ะ ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที จึงล้างหน้าด้วยน้ำเย็น และเช็ดให้แห้ง ลองสังเกตดูสิคะว่า ผิวหน้าของคุณรู้สึกสดชื่นขึ้นมากแค่ไหน

วิธีกำจัดสิวเสี้ยนให้หน้าเนียน ง่ายๆ


วิธีกำจัดสิวเสี้ยนให้หน้าเนียน ง่ายๆ





สิวเสี้ยนมักพบบริเวณปลายจมูก และแก้ม จะเห็นเป็นจุดดำ ๆ จำนวนมาก ซึ่งแท้จริงแล้ว
ก็คือไขมันที่หลุดออกมา รวมทั้งขนอ่อนที่ลอกตัว ถ้าลองบีบดูจะเห็นเป็นเส้นสีขาวเหมือนตัวหนอน
และหากส่องด้วยแว่นขยาย จะเห็นขนอ่อนจำนวนมาก ประมาณ 6-50 เส้น
สิวเสี้ยนเกิดได้อย่างไรสาเหตุของการเกิดสิวเสี้ยน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะต่อมไขมันมีขนาดใหญ่
มีการผลิตไขมันออกมาสู่ผิวจำนวนมาก จึงเกิดการอุดตันในรูขุมขน และทำให้ขนอ่อนตกค้างในรูขุมขนด้วย
หนทางในการกำจัดสิวเสี้ยน1. การทายารักษาสิวเสี้ยนการทายาที่มีคุณสมบัติขจัดการอุดตัน
หรือทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ผิวบริเวณรูขุมขน ยาที่ใช้จะอยู่ในกลุ่มของกรดวิตามินเอ
จำพวก ทริตินอล ( Trrtinol) หรือ เรตินเอ (Retin A ) ซึ่งนอกจากช่วยลดริ้วรอยแล้ว
ยังช่วยขจัดสิวเสี้ยนได้ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม การใช้สารในกลุ่มวิตามินเอ ควรปรึกษาแพทย์
เพราะอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองแก่ผิวได้ และหากจะให้ผลจริง ๆ ก็มักใช้เวลาราว 2-3 เดือน2.
แผ่นลอกสิวเสี้ยนแผ่นลอกสิวเสี้ยน เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก ราคาไม่แพงนัก
แต่การใช้ก็ต้องระมัดระวัง เพราะสารเคมีที่ใช้ อาจก่อให้เกิดการแพ้ได้ 3.
เลเซอร์กำจัดสิวเสี้ยนวิธีนี้จะใช้ได้ดีในกรณีของสิวเสี้ยนหัวดำ แต่ค่าบริการก็ค่อนข้างแพง4. มาสก์ผิวด้วยไข่ขาวเป็นวิธีที่เก๋า แต่ก็ช่วยให้สิวเสี้ยนลอกตัวออกมาได้มาก โดยทาไข่ขาวบาง ๆ ที่จมูกหรือข้างแก้ม แล้วนำกระดาษซับหน้าแค่ชั้นเดียว หรือกระดาษทิชชูคลี่ให้บาง แปะทับลงไป ปล่อยให้แห้ง แล้วจึงดึงออก จะมีสิวเสี้ยนหลุดติดออกมาด้วยการป้องกันการเกิดสิวเสี้ยนคนผิวมัน มีโอกาสเกิดสิวเสี้ยนได้ง่าย เนื่องจากต่อมไขมันมีขนาดโต และมีปริมาณน้ำมัน ออกมาฉาบผิวค่อมข้างมาก จึงเกิดการอุดตันปิดปากรูขุมขนได้ง่าย การลดความมันของใบหน้า จึงช่วยป้องกันการเกิดสิวเสี้ยนได้วิธีลดความมันของผิวหน้าและลดการอุดตันของรูขุมขน

1. เลือกใช้เครื่องสำอางที่ช่วยดูดซับความมันของผิว และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเนื้อเบา ชนิดโลชั่นจะเหมาะกว่าชนิดครีม และ
ใช้ในปริมาณเพียงน้อย จะช่วยลดการอุดตันบริเวณรูขุมขน

2. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA ซึ่งช่วยผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวที่ตกค้างออก และลดการเกิดสิวเสี้ยนได้

3. เครื่องสำอางหลายยี่ห้อ มีส่วนผสมของกรดวิตามินเอ จำพวกเรตินอล ซึ่งนอกจากจะช่วยต่อต้านริ้วรอยแล้ว ยังช่วยเร่งผลัดการเปลี่ยนเซลล์ผิวด้วย แต่ข้อเสียก็คือ อาจเกิดการแพ้ได้ง่าย จึงอาจเลือกใช้วันเว้นวัน และควรทาตอนผิวแห้งสนิท เนื่องจากปฎิกิริยาระหว่างกรดวิตามินเอกับน้ำ อาจทำให้ผิวลอกตัวมากขึ้น

4. การซับหน้าในระหว่างวัน โดยใช้กระดาษซับหน้า กดซับความมันที่ผิวออก ก็เป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยลดความมันของผิวได้เช่นกัน

5. การอบไอน้ำให้กับผิว ช่วยทำความสะอาดผิวหน้า ลดสิ่งคั่งค้างบนผิวได้ดี เหมาะกับคนผิวมัน ทำสัปดาห์ละครั้ง

เลือกครีมยังไงให้ หน้าเนียน ใส



ถ้าคุณเคยรู้สึกสับสนเวลาที่ต้องเลือกซื้อครีมบำรุงผิวกันละก็ มีคำ
แนะนำว่าคุณไม่ควรคำนึงถึงยี่ห้อหรือราคาเป็นอย่างแรก
แต่ควรดูที่ส่วนผสมในครีมเป็นสำคัญ ซึ่งทั้งหมดนี้ทางการแพทย์มีงานวิจัยยืนยันมาแล้วว่าให้ผลจริง…มีอะไรบ้างไปดูกัน

1.วิตามินเอหรือเรตินอล

ข้อดี : กระตุ้นให้เกิดการหลุดลอกของเซลล์ผิวชั้นบน และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นหนังแท้จากภายใน ผิวภายนอกจึงดูเรียบเนียนขึ้น และริ้วรอยลดลง

ข้อเสีย : วิตามินเอทำให้แสบแดงและไวแดดได้ ไม่ควรทาตอนกลางวัน ควรบำรุงก่อนนอน, เรตินอลระคายเคืองน้อยกว่า ไม่ทำให้ผิวไวแดด ทาได้ทั้งกลางวันและก่อนนอน ควรเก็บไว้ในที่เย็น เพราะไม่มีความคงตัว, ไม่ควรใช้ขณะที่มีปัญหาผิวแห้งหรืออักเสบ

2.กรดผลไม้ (AHA)

ข้อดี : กระตุ้นให้เกิดการหลุดลอกของเซลล์ผิวชั้นบนเท่านั้น เนื่องจากครีมที่วางจำหน่ายเป็น AHA ที่มีความเข้มข้นต่ำ

ข้อเสีย : ไม่ควรใช้ขณะที่มีปัญหาผิวแห้งหรืออักเสบ ผิวมันควรใช้ในรูปเจลหรือโลชัน ผิวแห้งให้ใช้ในรูปของครีม โดยเริ่มจากความเข้มข้นต่ำๆ ก่อนปรับไปใช้ในความเข้มข้นที่สูงขึ้น

3.โคเอนไซม์ Q10

ข้อดี : เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันความเสื่อมของเซลล์ผิวและทำให้ผิวทนต่อรังสียูวีเอได้ดีขึ้น ยับยั้งการสร้างเอนไซม์ซึ่งทำลายคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ ครีมที่มีส่วนผสมของ Q10 สามารถลดริ้วรอยได้ถึง 23 เปอร์เซ็นต์โดยประมาณ เมื่อเปรียบเทียบกับครีมซึ่งไม่มี Q10

ข้อเสีย : ความปลอดภัยสูง สามารถใช้ได้ในขณะที่ผิวแห้งหรืออักเสบเล็กน้อย แต่ผลที่ได้ไม่ชัดเจนเท่ากับการใช้วิตามินเอหรือเรตินอล ซึ่งมีการศึกษามายาวนานกว่า

4.DMAE Dimethylaminoethanol)

ข้อดี : เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งออกฤทธิ์ได้ดีบริเวณเยื่อบุเซลล์และเสริมการออกฤทธิ์ของสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่นๆ มีการศึกษาพบว่า เมื่อใช้ครีมที่มีส่วนผสมของ DMAE 4 สัปดาห์ โดยประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้ พบว่าผิวเรียบเนียนและกระชับขึ้น

ข้อเสีย : เป็นสารตัวใหม่ที่มีความปลอดภัยสูง แต่ยังมีการศึกษาไม่มากนัก แต่ผลการศึกษาก็น่าทึ่งทีเดียว ในบ้านเราเริ่มมีแบรนด์ชั้นนำเข้ามาจำหน่ายบ้างแล้ว

เลือกซื้อครีมบำรุงผิวคราวหน้า อย่าลืมพลิกกระปุกหาส่วนผสมเหล่านี้กันด้วยนะจ๊ะ อย่างไรก็ตามไม่ใช่เพียงส่วนผสมเท่านั้นที่สำคัญ วิธีการดูแลฟื้นฟูผิวหน้าให้ดูดีอยู่เสมอก็มีส่วนสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

วิธีฟื้นฟูผิวหน้าแบบเร่งด่วน

เคยไหม?……ที่ตื่นเช้าขึ้นมาแล้วเจอเข้ากับใบหน้าหมองคล้ำ ไม่ใส่ปิ๊งปั๊ง ริ้วรอยยับย่นต่างๆ ก็ไม่รู้มาจากไหน ดูแล้วชวนให้หดหู่ใจเป็นที่สุด
Amanda Lacey ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหน้าบอกไว้ในหนังสือ The 21st Century Beauty Bible ว่าอย่าตกใจไป มีวิธีที่ช่วยให้เช้าอันหม่นหมองของคุณสดใสขึ้นได้อย่างรวดเร็วมาบอกต่อกันด้วย อย่างแรก ควรดื่มน้ำร้อนที่หยดน้ำมะนาวคั้นสดเหยือกใหญ่นำไปก่อน จากนั้นควรมีการออกกำลังสักเล็กน้อย เพื่อเป็นการเติมออกซิเจนให้กับผิวหน้าจะเป็นเดิน วิ่ง โยคะ หรือเต้นไปรอบๆ บ้านก็ได้ตามชอบ ตามด้วยการสูดหายใจลึกๆ ช้าๆ อย่างน้อย 6 ครั้ง

- ต่อมาให้ทำความสะอาดผิวหน้าด้วยเคลนเซอร์อย่างดี ล้างออกด้วยผ้าชุบน้ำร้อนบิดหมาดๆ แล้วตามด้วยผ้าชุบน้ำเย็นอีกครั้งหนึ่งเพื่อกระชับผิว และรอยแดง แต่ขณะที่เช็ดหน้าด้วยผ้านี้มีเคล็ดลับอีกนิดว่าคุณควรเอนศีรษะไปข้างหลัง (อาจนั่งพิงพนักโซฟาก็ได้) แล้ววางผ้าโปะทิ้งไว้สัก 1-2 นาที เสร็จแล้วให้ทามอยซ์เจอร์ไรเซอร์ด้วยปลายนิ้ว อย่าถูหน้าแรงๆ เด็ดขาด และระหว่างวันก็อย่าลืมดื่มน้ำสะอาดให้ได้อย่างน้อย 1 ลิตรแล้วหน้าใสปิ๊งก็จะกลับมาหาคุณ

ข้อแนะนำ

สำหรับคนที่ไม่สามารถรับประทานนมได้ (ร่างกายไม่สามารถย่อยแลกโตสได้) ทราบไหมว่ามีวิธีทดแทนแคลเซียมจากนมด้วยวิธีอื่นๆ ด้วย

- ดื่มนม Low-fat หรือนมที่ไม่มีไขมันที่แลกโตสน้อย หรืออาจใช้วิธีดื่มนมถั่วเหลือง
หรือน้ำส้มคั้นสด

- เลือกรับประทานโยเกิร์ตไขมันต่ำ หรือชีสที่มีไขมันน้อย อย่างเชดด้าชีสไขมันต่ำ

- รับประทานผักใบเข้ม เช่น กะหล่ำปลีเขียว หรือผักคะน้า

- รับประทานปลากระป๋องที่มีกระดูกเปื่อยนุ่ม เช่น แซลมอน

4 ขั้นตอน สำหรับการดูแลผิวหน้าให้ หน้าเนียน ใส

4 ขั้นตอน สำหรับการดูแลผิวหน้าให้ หน้าเนียน ใส


1. ขั้นตอนการล้างหน้า

ชำระล้างและกำจัดสิ่งสกปรก ความมันส่วนเกินเซลล์ผิวหนังที่หลุดออก รวมทั้งคราบเครื่องสำอางที่แต่งระหว่างวัน โดยไม่ทำให้ผิวหน้าแห้ง

2. การใช้โทนเนอร์

เป็นขั้นตอนที่สำคัญและจำเป็น เสมือนเป็นการทำความสะอาดขั้นสุดท้าย จะทำให้ผิวรู้สึกสดชื่นขึ้นนอกจากนี้ยังช่วยกระชับรูขุมขนอีกด้วย

3. การใช้มอยซ์เจอร์ไรเซอร์

จะทำให้ผิวหน้านุ่มและเป็นการปกป้องผิว สามารถใช้ได้ทุกวันแม้ไม่ได้แต่งหน้า หรือจะทาก่อนการแต่งหน้า เพื่อให้ผิวดูเรียบและนุ่มเนียน

4. การใช้ทรีทเม้นท์ครีม

จะเป็นตัวที่ทำงานอย่างล้ำลึกในการบำรุงหล่อเลี้ยงหรือซ่อมแซมผิวของคุณ ควรใช้เป็นประจำทุกคืนเพื่อให้ได้รู้สึกนุ่ม สบายและมีความยืดหยุ่น ผิวของคุณต้องการการบำรุงเพิ่มหรือไม่


ขั้นตอนที่ 1


ขั้นตอนที่ 4


ขั้นตอนที่ 2


ขั้นตอนที่ 3